Everyday Tech

สงสัยกันไหม แอปแปลภาษา อย่าง Google Translate ทำงานยังไง

บทความวันนี้เราจะมาแชร์กันสนุก ๆ ว่า แอปแปลภาษา อย่าง Google Translate ทำงานยังไง.. สมัยก่อนการแปลภาษาในคอมพิวเตอร์ใช้วิธี Rule-based Translation คือให้มนุษย์เขียนกฎไวยากรณ์และพจนานุกรมลงไป เช่น เจอคำนี้ต้องแปลเป็นคำนี้ แต่ข้อเสียคือมันจะแปลออกแข็ง ๆ ไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย

ต่อมามีการใช้ Statistical Machine Translation (SMT) ซึ่งใช้สถิติจากข้อมูลการแปลจำนวนมาก เช่น ถ้าเจอคำว่า “bank” ในประโยคเกี่ยวกับเงิน โอกาสสูงที่จะหมายถึง “ธนาคาร” ไม่ใช่ “ริมฝั่งแม่น้ำ” แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องความต่อเนื่องของประโยค

ปัจจุบัน Google Translate และแอปแปลภาษาส่วนใหญ่หันมาใช้ Neural Machine Translation (NMT) ที่อาศัย Deep Learning โดยเฉพาะโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) แบบ Transformer

ตัวอย่าง ถ้าพิมพ์ว่า “I’m feeling blue”

  • Rule-based จะแปลตรงตัวเป็น “ฉันรู้สึกสีน้ำเงิน”
  • NMT (Google Translate ปัจจุบัน): เข้าใจว่า “blue” ในบริบทนี้หมายถึง “เศร้า” จึงแปลเป็น “ฉันรู้สึกเศร้า”

กระบวนการทำงานของแอปแปลภาษา

  • Encoding: ข้อความต้นฉบับ (ภาษาต้นทาง) จะถูกแปลงเป็นตัวเลข (vector) ที่บอกความหมายเชิงคณิตศาสตร์ของแต่ละคำ
  • Context Understanding: โมเดล Deep Learning จะพิจารณาทั้งประโยค ไม่ใช่แค่ทีละคำ เพื่อเข้าใจความหมายโดยรวมและบริบท
  • Decoding: โมเดลจะแปลงความหมายที่เข้าใจแล้วเป็นภาษาปลายทาง โดยเลือกคำที่เหมาะสมที่สุดตามบริบท
  • Training: ระบบถูกฝึกด้วยข้อมูลการแปลนับพันล้านประโยคจากเอกสาร เว็บไซต์ และคู่มือแปลที่ผ่านการตรวจสอบ

การแปลภาษาที่แม่นยำขึ้นเกิดจากการพัฒนา Deep Learning แบบเดียวกับที่ใช้ในระบบจดจำเสียง ใบหน้า หรือแม้แต่ Cybersecurity ปัจจุบันยังมีการใช้ AI ตรวจจับข้อความในอีเมลฟิชชิง (phishing email) เพื่อความปลอดภัยในการสื่อสารด้วย